เว็บไซต์
เป็นสิ่งที่สังคมยุคใหม่ต่างก็รู้จักกันดี เพราะเป็นสื่อในการนำเสนอข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆ
ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเว็บไซต์ก็มีองค์ประกอบหลายอย่าง
และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก
ความหมายของเว็บไซต์และองค์ประกอบต่างๆ
เว็บไซต์ (Website) หมายถึง หน้าเว็บเพจที่จัดทำขึ้น
เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตโดยจะมีหน้าเว็บเพจหลายๆ
หน้าที่เชื่อมโยงเข้ากับไฮเปอร์ลิงค์ เพื่อให้สามารถเปิดไปยังหน้าเพจต่างๆ
ได้อย่างง่ายดายและถูกจัดเก็บไว้ใน www. (เวิลด์ไวด์เว็บ) โดยเว็บไซต์ส่วนใหญ่นั้นก็มีทั้งเว็บไซต์ที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรี
และเว็บไซต์ที่ต้องสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการ จึงจะเข้าใช้งานเว็บได้
ซึ่งข้อมูลในเว็บก็จะมีหลากหลายแบบ
ขึ้นอยู่กับความต้องการนำเสนอของเจ้าของเว็บไซต์
การเรียกดูเว็บไซต์จะเรียกดูผ่านทางซอฟต์แวร์ ในลักษณะของเบราว์เซอร์
เว็บเบราว์เซอร์ (Web
browser) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บ
และมีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษา HTML ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
นอกจากนี้ยังสามารถดูเอกสารในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้
ไม่ว่าเว็บเหล่านั้นจะแสดงข้อมูลในลักษณะของภาพ ระบบมัลติมีเดีย รูปภาพหรือข้อความ
ในปัจจุบันเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับระบบ HTML 5 สามารถอ่าน
CSS 3 ได้อย่างสวยงาม และกำลังได้รับความนิยมมากที่สุด ก็มี 4
ประเภทดังนี้
โฮมเพจ (Home
Page) ก็คือหน้าแรกของเว็บไซต์เมื่อเปิดเข้าไปยังเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง
โดยหน้าแรกนี้จะรวมเมนูและเรื่องราวต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เพราะหากหน้าแรกมีการออกแบบได้อย่างสวยงามและจัดหน้าอย่างเป็นระเบียบก็จะทำให้ผู้ชมเกิดความสนใจและอยากเข้าชมเว็บมากขึ้น
เว็บเพจ (Web
Page) ก็คือหน้าเอกสารต่างๆ ที่อยู่ในรูปของ HTML โดยจะนำเสนอข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆ เป็นหน้าๆ ไป
และใช้การเชื่อมโยงเพื่อให้สามารถคลิกไปหน้าเว็บเพจแต่ละหน้าได้ง่ายขึ้น
เว็บ Static คือเว็บที่แสดงผล
เพื่อให้ความรู้หรือข้อมูลแก่ผู้เข้าชมเว็บเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบหรือรับส่งข้อมูลกับผู้ที่เข้าชมเว็บได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์ประเภทนี้ ก็จะเป็นเว็บ Gallery รูปภาพ เว็บของบริษัทหรือองค์กรต่างๆ และเว็บให้ความรู้ทั่วไป
เว็บ Dynamic เป็นเว็บไซต์ที่สามารถตอบโต้
และรับส่งข้อมูลระหว่างผู้เข้าชมกับเว็บไซต์ได้ ซึ่งเว็บเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีระบบเว็บบอร์ด
รวมไปถึง Social Media ประเภทต่างๆ มีการสมัครสมาชิก หรือเป็นเว็บขายสินค้าออนไลน์ที่มีระบบแชทกับผู้ขาย
เป็นต้น
Web
Service เป็นบริการด้านข้อมูล
ที่สามารถดึงข้อมูลของอีกเว็บหนึ่งไปแสดงผลในอีกเว็บหนึ่งได้
Hosting เป็นพื้นที่ของคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
ที่ทางผู้ให้บริการได้ทำการจัดสรรมาให้เช่า โดยส่วนใหญ่จะมีการให้เช่าเป็นแบบรายเดือน
รายปีหรือตามแต่ผู้ให้บริการกำหนด
อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อให้ผู้คนสามารถท่องเว็บไซต์ต่างๆ
ได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้กลุ่มองค์กร
ธุรกิจหรือบริษัทสามารถนำเสนอข้อมูลของตนลงบนอินเทอร์เน็ต ผ่านทางเว็บไซต์
เป็นการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของการทำเว็บไซต์
ประโยชน์ของการทำเว็บไซต์
ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการนำเสนอข้อมูล ให้กับผู้ใช้งานได้ทราบเท่านั้น
แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่
ขยายช่องทางในการขายสินค้าและบริการ ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้มากขึ้น
และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปสำหรับการทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์หรือขายของบนเว็บไซต์
จะทำให้มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ซึ่งก็คือโฮมเพจ
และเป็นการเปิดตัวสินค้าสู่ตลาดโลก
เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณะขององค์กร
ร้านค้าและบริษัท ให้มีความน่าเชื่อถือและทันสมัยมากยิ่งขึ้นมีความเป็นสากล
ด้วยช่องทางการติดต่อลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งอีเมลล์ Facebook Line
และอื่นๆเพิ่มความสะดวกให้กับกลุ่มผู้บริโภค
โดยสามารถซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางเว็บไซต์ได้ตลอดเวลาช่วยโฆษณาบริษัท องค์กรและสินค้าให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำหน้าที่ในการส่งเสริมการขาย
และบริการของบริษัทช่วยยกระดับมาตรฐานในการซื้อขายระหว่างประเทศ
และสามารถเสริมสร้างธุรกิจให้มีความแข็งแรงได้ดี
นอกจากการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว
ก็ต้องมีการพัฒนาเว็บไซต์บ่อยๆ
เพื่อให้มีความทันสมัยและทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ
โดยมีขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์ดังนี้
กำหนดวัตถุประสงค์ว่าต้องการพัฒนาเว็บไซต์อย่างไรบ้าง
เน้นเนื้อหาเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร และพัฒนาในส่วนไหนอย่างไรกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการให้เข้าชมเว็บมากที่สุด เพื่อจะได้เลือกวิธีการนำเสนอ
การใช้กราฟิก รูปภาพและโทนสีได้อย่างเหมาะสมเตรียมแหล่งข้อมูล ที่จะนำเนื้อหาสาระมานำเสนอ
ซึ่งแหล่งข้อมูลเหล่านี้จะต้องมีความน่าเชื่อถือและครบถ้วนสมบูรณ์
เตรียมบุคลากร ที่มีความสามารถในด้านการพัฒนาเว็บไซต์ให้พร้อม
โดยจะมีกี่คนก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าต้องการบุคลากรดูแลในด้านใดบ้างเตรียมทรัพยากร ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ เช่น โปรแกรมต่างๆ มัลติมีเดีย
เป็นต้น เริ่มลงมือสร้าง ข้อมูลครบทั้งหมดแล้ว
จึงนำข้อมูลที่ได้ มาสร้างเป็นเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมกับ 5 ข้อด้านบนปรับปรุงพัฒนา หลังจากทำเว็บไซต์เสร็จแล้ว
ควรมีการทำการตลาดออนไลน์ ปรับปรุง SEO มีการดูแลเว็บไซต์ให้เหมาะสม
เพื่อส่งเสริมวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน เพราะเว็บไซต์ที่ดีที่สุด
คือเว็บไซต์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ส่วนเว็บไซต์ที่สร้างเสร็จ
คือเว็บไซต์ที่ตายไปแล้ว
HTML คือ
ภาษาประเภท Markup Language ที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจขึ้นมา
โดยมีแม่แบบที่มาจาภาษา SGML โดย HTML จะเป็นภาษาในการสร้างเว็บที่สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจได้ง่าย
ซึ่งในปัจจุบันก็มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายและมีการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานจากองค์กร
World Wide Web Consortium (W3C)
CSS คือ ภาษาที่ใช้สำหรับตกแต่งเอกสาร HTML/XHTML ให้มีหน้าตา สีสัน ระยะห่าง พื้นหลัง เส้นขอบและอื่นๆ ตามที่ต้องการ CSS ย่อมาจาก Cascading Style Sheets มีลักษณะเป็นภาษาที่มีรูปแบบในการเขียน Syntax แบบเฉพาะและได้ถูกกำหนดมาตรฐานโดย W3C เป็นภาษาหนึ่งในการตกแต่งเว็บไซต์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
CSS คือ ภาษาที่ใช้สำหรับตกแต่งเอกสาร HTML/XHTML ให้มีหน้าตา สีสัน ระยะห่าง พื้นหลัง เส้นขอบและอื่นๆ ตามที่ต้องการ CSS ย่อมาจาก Cascading Style Sheets มีลักษณะเป็นภาษาที่มีรูปแบบในการเขียน Syntax แบบเฉพาะและได้ถูกกำหนดมาตรฐานโดย W3C เป็นภาษาหนึ่งในการตกแต่งเว็บไซต์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ช่วยให้เนื้อหาภายในเอกสาร
HTML
มีความเข้าใจได้ง่ายขึ้นและในการแก้ไขเอกสารก็สามารถทำได้ง่ายกว่าเดิม
เพราะการใช้ CSS จะช่วยลดการใช้ภาษา HTML ลงได้ในระดับหนึ่ง
และแยกระหว่างเนื้อหากับรูปแบบในการแสดงผลได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้เร็ว
เนื่องจาก code ในเอกสาร HTML ลดลง
จึงทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงสามารถกำหนดรูปแบบการแสดผลจากคำสั่ง style sheet ชุดเดียวกัน ให้มีการแสดงผลในเอกสารแบบเดียวทั้งหน้าหรือในทุกๆ หน้าได้
ช่วยลดเวลาในการปรับปรุงและทำให้การสร้างเอกสารบนเว็บมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการแสดงผล ให้คล้ายหรือเหมือนกันได้ในหลาย Web
Browser ช่วยในการกำหนดการแสดงผลในรูปแบบที่มีความเหมาะกับสื่อต่างๆ
ได้เป็นอย่างดี ทำให้เว็บไซต์มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้นและมีความทันสมัย
สามารถรองรับการใช้งานในอนาคตได้ดี
โดเมเนม (Domain Name) คือ
ชื่อที่จะใช้ระบุลงไปในคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถค้นหาได้ในโดเมนเนมซีสเทม
โดยการตั้งชื่อโดเมนนั้น จะต้องเป็นชื่อที่ง่ายต่อการจดจำ เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น
เงื่อนไขในการตั้งชื่อโดเมนเนม จะต้องมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ตัวเลขและ “-” คั่นด้วย “.” มีความยาวตั้งแต่ 1 ถึง 63
ตัวอักษร
และไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ถือว่าเหมือนกัน เช่น
1belief.com (ถูก)
onebelief.com (ถูก)
1-belief.com (ถูก)
1_belief.com (ผิด)
เว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการท่องอินเทอร์เน็ต
เพราะหากไม่มีเว็บไซต์ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้
โดยเว็บไซต์ก็มีองค์ประกอบที่หลากหลายดังที่กล่าวไปข้างต้น